เนื้อหาเพิ่มเติม



ระดับของภาษา
ระดับภาษา ระดับภาษา คือ การใช้ภาษาพูดหรือภาษาเขียน ในโอกาสที่แตกต่าง หรือใช้กับผู้รับสารแต่ละ บุคคลย่อมมีการใช้ภาษาที่แตกต่างกันไป

 ระดับภาษา ระดับที่เป็นทางการ ( แบบแผน ) ระดับที่ไม่เป็นทางการ ( ไม่เป็นแบบแผน ) ระดับทางการ ( แบบแผน ) ระดับกึ่งทางการ ( กึ่งแบบแผน ) ระดับไม่เป็นทางการ (ไม่เป็นแบบแผนหรือภาษาปาก ) ระดับพิธีการ ระดับทางการ ระดับกึ่งทางการ ระดับไม่เป็นทางการ : ระดับสนทนา ระดับปาก (กันเอง)

ระดับของภาษาแบ่งตาม การใช้ภาษาตามสัมพันธภาพ ของบุคคล ตามโอกาสและกาลเทศะ แบ่งออกเป็น ๕ ระดับ ภาษาระดับพิธีการ ภาษาระดับทางการ ภาษาระดับกึ่งทางการ ภาษาระดับสนทนา ภาษาระดับกันเอง

๑. ภาษาระดับพิธีการ ¨ เป็นภาษาที่มีการเลือกสรรถ้อยคาในระดับสูง ไพเราะ สละสลวย ¨ โอกาสที่ใช้ภาษาระดับนี้จะเป็นงานพิธีที่มีความสำคัญ ¨ สัมพันธภาพระหว่างผู้รับสารกับผู้ส่งสารจะเป็นในลักษณะการ สื่อสาร แบบทางเดียว ¨ เช่น คากราบบังคมทูลในงานพระราชพิธี พระบรมราโชวาท สุนทร พจน์ วรรณคดีมรดก เป็นต้น
 ตัวอย่าง เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคลที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเจริญพระ ชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ปวงประชาชาวไทยขอน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัย ขอให้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์อันทรงมหาพลานุภาพทั้งหลาย จงโปรดอภิบาลบันดาลดลให้ใต้ฝ่า ละอองธุลีพระบาทจงเจริญด้วยมิ่งมหาศุภสวัสดิ์ เจริญพระชนมพรรษานับหมื่น ๆ ศตพรรษ สถิตเสถียรเป็นร่มโพธิ์ทองของปวงประชาชาวไทย ตราบชั่วกัลปาวสาน ( ภาวาส บุนนาค . ราชาภิสดุดี ใน ภาษาพิจารณ์ เล่ม ๒, หน้า ๑๓๙.)
 ๒. ภาษาระดับทางการ ¨ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ภาษาแบบแผน ¨ เป็นภาษาที่มีการเลือกสรรถ้อยคาอย่างถูกต้องตามแบบแผนของ ภาษาไทยที่ดี ใช้ถ้อยคาสุภาพ อาจมีการใช้ศัพท์ทางวิชาการปะปนอยู่ ด้วย ¨ เกิดขึ้นเนื่องจากตาแหน่งหน้าที่ หรือการติดต่อประสานงานที่เป็น ทางการเท่านั้น ¨ เช่น การเขียนรายงานทางวิชาการ งานวิจัย ตา รา บทความทางวิชาการ หนังสือราชการ เป็นต้น

ตัวอย่าง ขอพระบรมเดชานุภาพมหึมาแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชจง คุ้มครองประเทศชาติและประชาชนชาวไทยให้ผ่านพ้นสรรพอุปัทว์พิบัติภัยทั้ง ปวง อริราชศัตรูภายนอกอย่าล่วงเข้าทาอันตรายได้ ศัตรูหมู่พาลภายในให้วอด วายพ่ายแพ้ภัยตัว บันดาลความสุขความมั่นคงให้บังเกิดทั่วภูมิมณฑล บันดาล ความร่มเย็นแก่อเนกนิกรชนครบคามเขตขอบขัณฑสีมา
๓. ภาษาระดับกึ่งทางการ ¨ เป็นภาษาที่ใช้เพื่อการสื่อสารให้เกิดความเข้าใจกันด้วยความรวดเร็ว ลดความเป็นทางการลงบ้าง เพื่อให้เกิดความใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างผู้ ส่งสารและผู้รับสาร ¨ มักใช้ในการปรึกษาหารือกิจธุระระหว่างบุคคลหรือกลุ่มบุคคล การ ประชุมกลุ่ม การปรึกษางาน การวางแผนร่วมกัน ฯลฯ ¨ มีการเปิดโอกาสให้ผู้รับสารมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นร่วมกับผู้ ส่งสาร ¨ เช่น วารสาร นิตยสาร หนังสือพิมพ์ บทบรรยายในนวนิยาย
 ตัวอย่าง “… หนังเรื่องนี้มีโครงเรื่องหลักอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงของ ภูมิอากาศโลกในองค์รวม อันเป็นผลพวงจากปฏิกิริยาเรือนกระจก หรือ green house effect ซึ่งเกิดจากน้ามือมนุษย์โลกอย่างเราๆทั้งนั้น ไม่ว่า จะเป็นการเผาไหม้เชื้อเพลิงให้เกิดความร้อนและควันลอยขึ้นไปเกิดเป็น ชั้นห่อหุ้มโลกไว้ ส่งผลให้รังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่ส่องลงมายัง โลกสะท้อนกลับออกไปในห้วงอวกาศไม่ได้โลกเลยกลายเป็นเตาอบยักษ์ ที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ…” (ชาธร สิทธิเคหภาค, ๒๕๔๗: ๑๑๒)
๔. ภาษาระดับสนทนา (ไม่เป็นทางการ) ¨ เป็นภาษาที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างบุคคลที่มีความสัมพันธ์ยังไม่ถึง ขั้นสนิทสนม ¨ ใช้เฉพาะการพูด การสนทนาในชีวิตประจาวัน เช่น การพูดจากัน ระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนที่มาติดต่องาน หรือการแนะ นาตัวใน งานสังคม โดยที่บุคคลที่เกี่ยวข้องไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ¨ มักจะนาไปใช้ถ่ายทอดในงานเขียนเรื่องบันเทิงคดี เช่น บทสนทนา ในนวนิยายหรือเรื่องสั้น บทละคร การเขียนบันทึกส่วนตัว เป็นต้น
 ตัวอย่าง บทความเรื่องเขาอีโต้ สถานีความมันเชิงเขาใหญ่ ในคอลัมน์ BikeLine ความว่า “...ความตั้งใจในการเดินทางของผมครั้งนี้อยู่ที่การหาเส้นทาง ซอกแซกไปที่น้าตกเหวอีอ่า ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่ความตั้งใจมิเป็นผล เมื่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯที่หน่วยพิทักษ์ป่าคลองเพกาปฏิเสธอย่างนิ่มนวลว่า ไม่ สามารถอนุญาตให้ขึ้นไปปั่นจักรยานได้ เนื่องจากยังไม่มีนโยบายให้ปั่น จักรยานขึ้นไปเที่ยวน้าตกเหว ซึ่งคงจะต้องรอไปอีกพักใหญ่ๆ เพราะอยู่ ในช่วงสำรวจจัดทาเส้นทาง โดยทางอุทยานฯมีแนวคิดที่จะเปิดให้จักรยานเสือ ภูเขาขึ้นไปอยู่แล้ว แต่เมื่อไหร่ยังไม่ทราบ เป็นคา ปฏิเสธที่นุ่มนวล เราจึงได้แต่ น้อมรับโดยดี…” (หมูหวาน, ๒๕๔๗: ๗๒)

 ๕. ภาษาระดับปาก หรือภาษาระดับกันเอง ¨ เป็นภาษาที่ใช้ในวงจากัด ใช้กับบุคคลที่สนิทสนมคุ้นเคยกันเป็นพิเศษ เช่น ระหว่างเพื่อนสนิท บุคคลในครอบครัว ¨ สื่อสารกันในเนื้อหาที่รับรู้กันได้เฉพาะคู่สนทนาเท่านั้น ¨ สถานที่ใช้มักเป็นที่ส่วนตัว เช่น ที่บ้าน ¨ เน้นความสนุกสนาน ไม่นิยมบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ¨ สารที่สื่อถึงกันไม่มีขอบเขต แต่มักใช้ในการพูดจากันเท่านั้น ¨ อาจปรากฏอยู่ในบทสนทนา นวนิยายหรือเรื่องสั้นเพื่อความสมจริง บทความเสียดสีล้อเลียนในหน้าหนังสือพิมพ์ เป็นต้น
 ตัวอย่าง บทสนทนาจากนวนิยายเรื่องมายาตะวัน กล่าวว่า เออ นังบ้า ไป ไปนั่งรวมกันที่เก้าอี้โน่น จาไว้ ถ้าคิดหนีฉันยิงจริงๆ ไอ้ชิด เอ็งดูนังสองตัวนี่ให้ดี ถ้ามันไปที่ประตูเมื่อไหร่ยิงมันได้เลยเชนขู่เสียงเกรี้ยว (กิ่งฉัตร, ๒๕๔๙: ๔๖๒)
 ภาษาแบบแผน ภาษาที่ เป็นทางการ ตัวอย่าง ภาษากึ่งแบบแผน ภาษากึ่งทางการ ภาษาปาก ภาษาไม่เป็นทางการ ข้าพเจ้า กระผม ดิฉัน ผม ฉัน เรา ผม ฉัน หนู บิดา คุณพ่อ พ่อ มารดา คุณแม่แม่ โรงภาพยนตร์ โรงหนัง โรงหนัง ใบอนุญาตขับรถยนต์ใบขับขี่ใบขับขี่ หนังสือรับรอง ใบรับรอง ดวงตราไปรษณียากร แสตมป์ แสตมป์ กรุงเทพมหานคร กรุงเทพ ฯ บางกอก ศีรษะ หัว กบาล ฌาปนกิจศพ ปลงศพ เผาศพ ประทับตรา ตีตรา ตีตรา ปั๊มตรา รับประทาน กิน ยัด แดก ซัด กิน ยัด แดก ซัด ดื่มสุรา ดื่มเหล้า กินเหล้า ถองเหล้า ซัดเหล้า
หลักการใช้ภาษาให้ถูกต้องตามระดับภาษา ¨ การใช้ภาษาระดับใดในการสื่อสารจึงจะเหมาะสมนั้น ควรพิจารณาดังนี้ ¨ ๑.สัมพันธภาพระหว่างบุคคล ¨ ๒. กาลเทศะ ¨ ๓. เนื้อของสาระ ¨ ๔. วิธีการสื่อสาร







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น